ตลาดหุ้นไทยปิด 3.59 จุด โบรกฯ ชี้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) ประกาศผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติมให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศได้สะดวกขึ้นช่วงหลังสงกรานต์นี้ เป็นแรงหนุนหุ้นกลุ่มเปิดประเทศปิดบวก โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีก กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มโรงแรมและสายการบิน พร้อมประเมินกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้า มองแนวต้าน 1,695-1,700 จุด และแนวรับ 1,670-1,675 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 8 เมษายน 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +3.59 จุด หรือ +3.59% โดยปิดตลาดที่ 1,686.00 จุด มูลค่าการซื้อขาย 70,884.83 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวกลับขึ้นมาจากเมื่อวาน เคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุด 1,690.58 จุด ในขณะเดียวกันปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,678.07 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 719 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 614 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 938 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า 1,799.62 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -207.58 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -555.47 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,036.57 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.EA มูลค่าการซื้อขาย 3,966.56 ล้านบาท ปิดที่ 87.50 บาท ลดลง 0.75 บาท
2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,658.08 ล้านบาท ปิดที่ 158.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
3.OSP มูลค่าการซื้อขาย 2,561.28 ล้านบาท ปิดที่ 34.50 บาท ลดลง 2.00 บาท
4.JDF มูลค่าการซื้อขาย 2,242.51 ล้านบาท ปิดที่ 5.05 บาท ลดลง 0.45 บาท
5.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,029.05 ล้านบาท ปิดที่ 37.75 บาท ลดลง 0.50 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PN ปิดที่ 62.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 5.08%
2.EGCO ปิดที่ 170 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 1.19%
3.CPALL ปิดที่ 67.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 2.67%
4.RCL ปิดที่ 42.25 บาท เพิ่มขึ้น +1.50 บาท หรือ 3.68%
5.SYNEX ปิดที่ 26.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 5.00%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.CBG ปิดที่ 101.00 บาท ลดลง 4.50 บาท หรือ 4.27%
2.PTTEP ปิดที่ 143.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 2.05%
3.SCC(XD) ปิดที่ 368.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 0.81%
4.OSP ปิดที่ 34.50 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 5.48%
5.KBANK ปิดที่ 158.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.63%

ในส่วนของดัชนี SET100 ปิดที่ 2,287.69 จุด เพิ่มขึ้น 1.82 จุด หรือ 0.08% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 1,006.33 จุด ลดลง -0.05 จุด หรือ 0.00% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 657.42 จุด เพิ่มขึ้น 0.49 จุด หรือ 0.07%

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวนด์หลังจากร่วงไปมากเมื่อวานนี้ โดยปัจจัยหนุนสำคัญมาจากกลุ่มหุ้นเกี่ยวข้องกับการเปิดเมือง ทั้งกลุ่มค้าปลีก กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มโรงแรมและสายการบิน หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) จะผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติมให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศได้สะดวกขึ้นช่วงหลังสงกรานต์นี้ ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายดีดตัวขึ้นมาเพิ่มจากช่วงเช้าอีกเล็กน้อย ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียกลับตัวขึ้นมาปิดบวกได้เช่นกัน

ขณะที่แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบ และการซื้อขายคงไม่คึกคักมาก เพราะเข้าใกล้ช่วงวันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำให้นักลงทุนคงเริ่มชะลอการลงทุน และมีความระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอกในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยปิดทำการ และยังไม่มีปัจจัยที่ต้องรอติดตาม โดยประเมินกรอบการลงทุนมองแนวต้านที่ 1,695-1,700 จุด และแนวรับที่ 1,670-1,675 จุด

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket