กองสลากฯ ลุยฟันทิ้ง “รายย่อย และผู้มีสิทธิซื้อจอง” ไร้เยื่อใย หวังแก้ปัญหาหวยแพง หรือ แค่สร้างแรงกระเพื่อมตามสถานการณ์

นับเป็นความกล้าหาญของผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือหวยบนดิน ที่ออกมาประกาศฟันทิ้งตัวแทนจำหน่ายรายย่อย และผู้มีสิทธิซื้อจอง แบบไร้เยื่อใย เกือบ 10,000 ราย หลังพบว่าทำผิดระเบียบข้อตกลงกับกองสลากฯ โดยเป็นการเอาสิทธิตนเองไปให้คนอื่นดำเนินการแทน หลังพบสลากฯมากกว่า 2 ล้านฉบับ นำมาเสนอขายในเว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่นของมังกรฟ้า เตรียมรวบรวมข้อมูลพิจารณาเอาผิด ทั้งเรื่องจำหน่ายสลากฯ เกินราคาตั้งแต่ 90 – 105 บาท การปิดบังบาร์โค้ดของสำนักงานสลากฯ การเปิดเว็บการพนันหลอกลวงฉ้อโกงและมีการขายซ้ำหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบเรื่องของการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลว่ามีความถูกต้องอย่างไรบ้าง ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นมีเงินหมุนเวียนอยู่ในระบบดังกล่าวกว่า 100 ล้านบาทต่องวด

ทั้งนี้ล่าสุดเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาพ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รอง ผบก.สส.ภ.4 คณะทำงานชุดปฏิบัติการพิเศษฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ เข้าตรวจค้นตามหมายค้นศาลอาญา จำนวน 2 จุด ในพื้นที่ จ.นนทบุรี เพื่อทำการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 655/2565 และ 656/2565 ลงวันที่ 5 เมษายน 65 โดยจับกุม นายพชรล์ เมสสิยาห์พร อายุ 30 ปี กรรมการผู้มีอำนาจบริษัทมังกรฟ้า และ น.ส.ปานรดา ไชยพุฒิธาดา อายุ 43 ปี กรรมการผู้มีอำนาจโดยกล่าวหาว่า 1.ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน 2.ร่วมกันประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง โดยมิได้จดทะเบียนประกอบธุรกิจ ตลาดแบบตรง 3.ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความอันเป็นเท็จ หรือความจริงที่เป็นการไม่เป็นธรรม ต่อผู้บริโภค และ 4.ร่วมเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาล และยังไม่ได้ออกรางวัล เกินราคาที่กำหนด

เป็นการปฏิบัติการอย่างจริงจังในการกวาดล้างการขายหวยเกินราคา!!!

แต่หากมองย้อนในการแก้ไขปัญหาขายสลากฯเกินราคา เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2557 สมัยรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เข้ามารื้อระบบการซื้อขายสลาก ด้วยการยกเลิกระบบ 5 เสือกองสลาก และปรับระบบใหม่เปลี่ยนให้มีการขึ้นทะเบียนผู้ค้าหวยทั้งผู้ค้ารายย่อย ผู้ค้าโควตาถาวรนับแสนราย

และนับตั้งแต่ปลดล็อกดาวน์โควิด ปัญหาสลากฯแพงได้ทวีความรุนแรงขึ้นกว่าเดิมมาก และแพงขึ้นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน หากไปตามตลาดค้าส่ง มีการขายส่งสูงถึงใบละ 95-98 บาท ผู้ค้ารายย่อยที่รับมาต้องขายให้ชาวบ้านสูงถึงใบละ 110 บาท ชุด 2 ใบ 220-240 บาท ซึ่งแพงกว่าปกติที่ซื้อขายส่งใบละ 85-86 บาท ขายปลีก 95-100 บาท

ทั้งนี้ผู้ที่ออกแอ็กชั่นอย่างจริงจังในการฟันทิ้งผู้ที่ทำผิดระบบข้อตกลงกับกองสลากฯในครั้งนี้ “พ.ท.หนุน ศันสนาคม” ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ระบุว่า สนง.สลากฯประกาศยกเลิกสัญญา-ตัดสิทธิตัวแทนจำหน่ายรายย่อย และผู้มีสิทธิซื้อจอง ที่พบสลากฯบนแพลตฟอร์มมังกรฟ้าแล้ว มีผลตั้งแต่ 16 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป ส่วนสลากฯที่พบบนแพลตฟอร์มอื่น กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการรวบรวม ตรวจสอบข้อมูลเพื่อดำเนินการต่อไป

ตามที่ชุดปฏิบัติการตรวจสอบผู้ค้าคนกลางที่มีพฤติกรรมเสนอขายหรือขายสลากฯกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนด ได้ตรวจสอบผู้ค้าคนกลางที่มีพฤติกรรมเสนอขายหรือขายสลากเกินราคา ที่บริษัท มังกรฟ้าลอตเตอรี่ จำกัด และ บริษัท มังกรฟ้าแม่พลอย ครัวอยู่ศรี จำกัด จ.นนทบุรี และบริษัท มังกรฟ้าฯ สาขาเมืองเลย อ.เมืองเลย จ.เลย จากการตรวจค้น พบสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมทั้งหมด 2,027,500 ฉบับ หรือ 20,275 เล่ม

จากข้อมูลที่ได้รับจากชุดปฏิบัติการฯ สำนักงานฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบสลากฯกินแบ่งรัฐบาลจำนวนดังกล่าวแล้ว พบว่า เป็นสลากฯที่จัดสรรให้ตัวแทนรายย่อย 1,649 เล่ม หรือ 1,181 ราย ในส่วนของสมาคม/องค์กร 2,281 เล่ม จาก 181 องค์กร และเป็นสลากในส่วนของผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ จำนวน 16,345 เล่ม หรือ 7,602 ราย รวมจำนวนสลากฯ 20,275 เล่ม จากตัวแทนจำหน่ายรายย่อย สมาคม/องค์กร และผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ รวม 8,964 ราย

สำหรับการดำเนินการกับตัวแทนจำหน่าย และผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ ซึ่งเป็นผู้ได้รับการจัดสรรสลากที่ไปปรากฏอยู่บนแพลตฟอร์มมังกรฟ้านั้น ในส่วนของตัวแทนรายย่อย และผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามสัญญา และหลักเกณฑ์ในการรับสลากไปจำหน่าย ซึ่งระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ผู้ขายจะต้องไม่ขายสลากฯเกินราคาที่กำหนดไว้ในสลากฯ ไม่ว่าจะเป็นการขายโดยเรียกร้องให้ผู้ซื้อ ซื้อสิ่งของอื่นรวมอยู่ด้วยหรือไม่ และรวมทั้งการร้องขอประโยชน์ในลักษณะอื่นใด ถ้าผู้ขายฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามให้ถือว่าผิดสัญญา รวมถึงนำสลากฯของตนไปขายให้แก่ผู้อื่นเพื่อนำไปรวมชุด หรือแลกเปลี่ยนสลากกับผู้อื่น หรือหากตรวจพบว่า สลากฯของผู้ขายไปวางไว้เพื่อเตรียมจำหน่ายที่จุดจำหน่ายของผู้อื่นนอกเหนือจากจุดที่ได้ระบุไว้ ให้สันนิษฐานว่าไม่ได้ขายสลากฯด้วยตนเอง และถือว่าเป็นการผิดสัญญาซึ่งสำนักงานฯ มีสิทธิบอกเลิกสัญญา หรือยกเลิกสิทธิการเป็นผู้ลงทะเบียนซื้อ-จองล่วงหน้าได้ทันที ในส่วนของสมาคม/องค์กร สำนักงานฯ จะยกเลิกสิทธิในการรับสลากฯไปจำหน่ายของสมาชิกในสมาคม/องค์กรนั้นๆ ทันทีเช่นกัน

บทสรุปการฟันทิ้ง “ตัวแทนจำหน่าย ผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ” แบบไร้เยื่อใย จะดูเป็นการโยนหินลงน้ำเพื่อสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดคลื่นกระทบฝั่ง!!! และจะสามารถแก้ไขสลากฯแพงเกินราคาได้หรือไม่!?! ต้องติดตามแบบห้ามกระพริบตา!!!

อ้างอิง
https://siamrath.co.th/economy