“พีทีที โกลบอล เคมิคอล” ไตรมาส 3 ขาดทุน 13,384 ล้านบาท จากกการสต๊อกน้ำมันและรายการขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือรวม 8,108 ล้านบาท รวมถึงผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยง 2,111 ล้านบาท อีกทั้งขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 4,426 ล้านบาท
น.ส.ภัทรลดา สง่าแสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC กล่าวว่า งวดนี้ขาดทุน 13,384.17 ล้านบาท ขณะงวดนี้ปีก่อนกำไรสุทธิ 7,005.21 ล้านบาท ส่งผลให้งวด 9 เดือนมีตัวเลขขาดทุน 7,784.24 ล้านบาท ขณะที่งวดนี้ปีก่อนมีกำไรสุทธิ 41,734.81 ล้านบาท
โดยไตรมาสนี้บริษัทฯ มีรายได้จากการขายเว็บหวยออนไลน์ ถูกกฎหมาย บาทละ 1000 เชื่อถือได้รวม 181,536 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 8% จากไตรมาส 2 แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 62% จากไตรมาส 3 ปี 64 โดยรายได้รวมปรับตัวลดลงเนื่องจากความกังวลต่อภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ที่อ่อนตัวลงและราคาขายของผลิตภัณฑ์ที่ลดลงทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมี ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มี Adjusted EBITDA อยู่ที่ 10,374 ล้านบาท ปรับตัวลดลงทั้งจากไตรมาส 2 ปีนี้ และไตรมาส 3 ปี 64 หรือ 51% และ 34% ตามลำดับ ตามทิศทางส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีที่ปรับลดลง
เนื่องจากอุปสงค์ผลิตภัณฑ์ที่ลดลงจากมาตรการปิดเมืองเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศจีน รวมถึงยังคงมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ (ไม่รวมผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันและรายการขาดทุนจากรายการมูลค่าสุทธิที่จะได้รับของสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับผลขาดทุนทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยนและกำไรจากตราสารอนุพันธ์ทางการเงิน ผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยง รายการพิเศษอื่นๆ) อยู่ที่ 813 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจตามที่กล่าวมาได้ส่งผลให้เกิดความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ รับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปกติ ได้แก่ ผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันและรายการขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ (Stock Loss Net NRV) รวม 8,108 ล้านบาท ผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยง 2,111 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นจริงสูงกว่าราคาที่ทำประกันความเสี่ยงไว้โดยเป็นการรับรู้ที่เกิดขึ้นแล้ว (realized) เป็นผลขาดทุน 5,660 ล้านบาท และที่ยังไม่เกิดขึ้น (unrealized) เป็นผลกำไร 3,549 ล้านบาท ผลขาดทุนทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยน 4,426 ล้านบาท กำไรจากตราสารอนุพันธ์ทางการเงิน 1,128 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนที่บริษัทฯ รับรู้ 306 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากไตรมาส 2 จากธุรกิจปิโตรเคมีที่อ่อนตัวลง ส่งผลให้ในไตรมาส 3 ปีนี้ บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิรวม 13,384 ล้านบาท หรือ 2.97 บาท/หุ้น