OTO เดินหน้าเต็มสูบ! ส่งบริษัทย่อย “อินโน ฮับ” เข้าถือหุ้น “บล็อกเชน ไพรม์ โฮลดิ้ง” ในสัดส่วน 20% มูลค่า 20 ล้านบาท ปูทางเข้าสู่ธุรกิจด้านบล็อกเชนและคริปโตเคอเรนซี่ นำร่องด้วยโปรเจคแรก Social Bureau แพลตฟอร์มรายงานและตรวจสอบประวัติอาชญากรรมบนบล็อกเชนแห่งแรกของโลก ฟากผู้บริหาร “คณาวุฒิ วรรทนธีรัช” ปักหมุดเข้าสู่ธุรกิจ Tech Company เต็มรูปแบบ แย้มภายในปีนี้ เตรียมแจ้งเกิดอีก 1-2 แพลตฟอร์ม ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ต่อยอดธุรกิจซื้อหวยออนไลน์ถูกกฎหมายมั่นใจได้ Contact Center และ Call Center ในฐานะผู้นำตลาดของเมืองไทย
หลังจากที่บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จํากัด (มหาชน) (OTO) ได้เข้าทำบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น ระหว่างบริษัท อินโน ฮับ จำกัด(ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นร้อยละ 100 ของหุ้นทั้งหมด) กับบริษัท บล็อคเชน ไพรม์ โฮลดิ้ง จำกัด เพื่อศึกษาความเป็นไปได้และตรวจสอบสถานะเพื่อการเข้าลงทุนในธุรกิจ Social Bureau เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
นายคณาวุฒิ วรรทนธีรัช ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จํากัด (มหาชน) (OTO) เปิดเผยว่า ผลการตรวจสอบสถานะในบล็อคเชน ไพรม์โฮลดิ้ง เป็นที่น่าพอใจแก่บริษัท ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2565 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2565 จึงได้มีมติอนุมัติให้ “อินโน ฮับ” เข้าลงทุนใน บล็อคเชน ไพรม์ โฮลดิ้ง โดยการเข้าทำสัญญาจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในบล็อคเชนไพรม์ โฮลดิ้ง จำนวน 200,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 20 โดยมีมูลค่าการเข้าจองซื้อหุ้นในครั้งนี้เท่ากับ 20,000,000 บาท ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2565 “อินโน ฮับ” ได้เข้าลงนามในสัญญาจองซื้อหุ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“การลงทุนในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญในการทรานส์ฟอร์มธุรกิจเข้าสู่ Tech Company อย่างเต็มรูปแบบ โดยเริ่มจากการพัฒนาเข้าสู่ธุรกิจด้านบล็อกเชน และคริปโตเคอเรนซี่ อย่างเต็มตัว สอดรับเมกะเทรนด์หรือเทรนด์ใหญ่ของโลกในด้านเทคโนโลยี ที่มีผลต่อการพัฒนาคริปโตเคอเรนซี่ และภายในปีนี้มีแผนที่จะเปิดเพิ่มอีก 1-2 แพลตฟอร์ม รองรับความต้องการผู้บริโภคยุคใหม่ ที่เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนสำคัญกับการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น ถือเป็นการต่อยอดธุรกิจเดิมของบริษัทฯที่มีความแข็งแกร่งอยู่ในแล้ว ในฐานะผู้นำตลาด Contact Center และ Call Center ของเมืองไทย ผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น” นายคณาวุฒิ กล่าวในที่สุด
อนึ่ง บริษัท บล็อกเชน ไพรม์ โฮลดิ้ง จำกัด มุ่งสู่การเป็นบริษัทที่ปรึกษาและพัฒนาแพลตฟอร์ม Blockchain Solutions และนวัตกรรมพลิกโลกชั้นนำของเมืองไทย โดยมีโครงการนำร่องโครงการแรกด้วยโปรเจค Social Bureau ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรายงานและตรวจสอบประวัติอาชญากรรมบนบล็อกเชนแห่งแรกของโลก ภายใต้ความร่วมมือของบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีระดับแนวหน้าของเมืองไทยมากมาย เช่น บริษัท อีนิกเซอร์ จำกัด บริษัท อีรูไดท์ บริการวิศวกรรม จำกัด และบริษัท อะควาริโอ จำกัด
โดยแพลตฟอร์ม Social Bureau ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้ให้บริการด้านกระบวนการยุติธรรมแบบครบวงจร ด้วยการเป็นช่องทางให้ผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งข้อมูลอาชญากรรม โดยผู้แจ้งจะได้รับค่าตอบแทนเป็นคริปโตเคอเรนซี่ ในระบบนิเวศน์ของ Social Bureau ตอบแทน ซึ่งข้อมูลที่รายงานเข้ามาจะได้รับการตรวจสอบยืนยันความถูกต้องและจัดลำดับความน่าเชื่อถือของข้อมูลโดยชุมชนผู้ใช้งานด้วยกระบวนการ Proof-of-Stake และข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ได้รับรายงานจากผู้ใช้งานทั่วโลกจะถูกเชื่อมโยงเข้าหากันด้วย AI ที่ชาญฉลาดเพื่อระบุตัวคนร้ายที่แท้จริง ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดของคู่ค้าก่อนตัดสินใจทำธุรกรรมใดๆได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีบริการอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การตั้งรางวัลนำสืบหาตัวผู้กระทำผิดหรือหาข้อมูลทางคดี การชดใช้มูลค่าความเสียหาย การจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม การหาข้อยุติระหว่างคู่พิพาท และบริการอื่นๆ อีกมากมาย
ทั้งนี้ แพลตฟอร์มโซเชียลบูโรเป็นโครงการริเริ่มขึ้นในประเทศไทย และในปัจจุบันได้รับความร่วมมือจากบริษัทชั้นนำต่างๆ ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.socialbureau.io